เราทราบดีว่าการเรียนรู้เรื่องเงินที่โรงเรียนสร้างความแตกต่างและวินัยทางการเงินที่ดีขึ้น ให้กับนักเรียนของคุณ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าเด็กและคนรุ่นใหม่ที่รายงานว่ามีการศึกษาทางการเงินที่โรงเรียนมีแนวโน้มที่จะ
- ประหยัดขึ้นเรื่องการใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็น
- มีบัญชีธนาคาร
- มั่นใจในการจัดการเงินของตัวเอง
โรงเรียนประถม-มัธยมในสหราชอาณาจักรสอนวิชาการเงินไม่ใช่แค่สอนให้ออมเงิน แต่สอนภาษี ค่าเงิน สินเชื่อ และอื่นๆ โดยสหราชอาณาจักรอยู่ในระหว่างการผลักดันหลักสูตรการศึกษาด้านบุคคล สังคม สุขภาพ และเศรษฐกิจ ในระดับโรงเรียน หรือ Personal, Social, Health and Economic (PSHE) education พัฒนาเด็กให้เติบโตอย่างมีสุขภาพดี ปลอดภัย และมีความพร้อมที่จะใช้ชีวิตและทำงาน เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ทัศนคติ และการมีความรับผิดชอบต่อสังคม และปัจจุบันมีเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษาในโครงการนี้แล้วมากกว่า 50,000 คน
เมื่อจบชั้นประถมศึกษา (11 ปี)
อังกฤษ : สอดแทรกวิชาการเงินไว้กับวิชาคณิตศาสตร์ ให้นักเรียนพอจะมีความเข้าใจเรื่องสกุลเงินปอนด์ ชิลลิง การใช้เหรียญและธนบัตร การทอนเงิน ได้เรียนรู้เรื่องการจัดการความเสี่ยง หนี้ สินเชื่อ ประกันชีวิต การออมเงิน การรับเงินบำนาญ บริการทางการเงิน และการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เช่น ดอกเบี้ย
ไอร์แลนด์เหนือ : กำหนดว่าต้องมีความรู้เรื่องการเก็บรักษาเงิน การทำงบรายรับรายจ่าย การออมเงิน การวางแผนการเงิน การวางแผนใช้จ่าย
สกอตแลนด์ : กำหนดให้ต้องมีความรู้เท่าทันในการใช้เงิน การทอนเงิน การเปรียบเทียบราคา และการใช้บัตรต่าง ๆ ของธนาคาร
เวลส์ : เช่นเดียวกับสกอตแลนด์ แต่เพิ่มความรู้เรื่องกำไร ขาดทุน และการประเมินมูลค่าเงินเข้าไปด้วย เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษา (อายุ 18 ปี)
cr: pshe-association.org.uk, https://www.fincap.org.uk/en/articles/schools