สัดส่วนของผู้หญิงที่สำเร็จทางด้านการศึกษา STEM  มีน้อยมากเมื่อเทียบสัดส่วนประชากรทั่วไป เพื่อไม่ให้ติดกับดักอคติ

ที่บั่นทอนศักยภาพของประเทศในอนาคต รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจเพื่อปิดช่องว่างดังกล่าวให้ได้

ส่วนแบ่งของผู้สำเร็จการศึกษาสตรีในสาขา STEM รูปภาพ: Reuters Graphics

สำหรับปีการศึกษา 2567 ที่จะถึงนี้ มหาวิทยาลัยประมาณ 10 แห่ง รวมถึงสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียวจะปฏิบัติตามการเรียกร้องของรัฐบาลญี่ปุ่น ในการให้โควตากับนักเรียนหญิงสาย STEM ร่วมกับสถาบันการศึกษาอีกหลายแห่งที่เริ่มให้โควตาแล้วในปีการศึกษานี้

นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชน โดยสำนักความเท่าเทียมทางเพศจะจัดเวิร์กช็อปและกิจกรรมด้าน STEM มากกว่า 100 รายการ ที่มุ่งเป้าไปที่นักเรียนหญิงเป็นหลักในช่วงฤดูร้อนนี้ เช่น การเรียนรู้จากวิศวกรรถสปอร์ตของมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น

Minoru Taniura เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ กล่าวว่า “การขาดแคลนวิศวกรหญิงนั้นผิดธรรมชาติอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับการที่ผู้หญิงมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของสังคม”

“หากสัดส่วนของวิศวกรไม่สอดคล้องกับจำนวนประชากร ญี่ปุ่นจะล้าหลังในการนำเสนอสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหาในอนาคต

สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว

ทำไม STEM จึงมีความสำคัญต่อการสร้างนวัตกรรมทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ

  • การสร้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ STEM มีผลกระทบอย่างมากต่อการสร้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ สาขาเหล่านี้เสนอโอกาสทางอาชีพที่มีความต้องการสูงและให้ค่าตอบแทนสูง ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะและผลักดันอัตราการจ้างงาน บุคลากรด้าน STEM ที่มีศักยภาพมีความสำคัญต่อการรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเศรษฐกิจโลก และดึงดูดการลงทุนจากอุตสาหกรรมที่อาศัยความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • การแก้ปัญหาและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ การศึกษา STEM ปลูกฝังทักษะการแก้ปัญหา ความสามารถในการคิดเชิงวิพากษ์ และความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ทักษะเหล่านี้มีความสำคัญต่อการรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนและการค้นหาแนวทางแก้ไขที่เป็นนวัตกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้าน STEM ได้รับการฝึกอบรมให้วิเคราะห์ปัญหา คิดอย่างมีเหตุผล เพื่อพัฒนาวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่ความก้าวหน้าในภาคส่วนต่างๆ รวมถึงการดูแลสุขภาพ พลังงาน การขนส่ง และการสื่อสาร
  • การพัฒนาที่ยั่งยืน STEM มีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความท้าทายระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาด้านพลังงานทดแทน การจัดการทรัพยากร การบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเกษตรแบบยั่งยืน ด้วยเหตุนี้การศึกษาด้าน STEM จึงมีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและมั่งคั่งในระยะยาว

source : weforum, Salika

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น