เมื่อการใส่แว่น ไม่ได้ช่วยปกป้องสายตาจากแดดหรือช่วยในการมองเห็นเท่านั้น
ตอนนี้แว่น AR ได้เข้ามามีบทบาทส่วนรวมในการช่วยให้การฟัง (ผู้มีปัญหาทางการได้ยินหรือการออกเสียง)
แว่นตา หรือการนำเทคโนโลยีแบบ Augmented Reality, AR ที่เปลี่ยน “คำพูด” เป็น “ข้อความ” มีความเป็นไปได้อย่างมากในปัจจุบัน แว่นตา AR สามารถใช้เทคโนโลยีการแสดงภาพแบบเสริมเอาท์ในปริมาณขนาดเล็กได้ โดยที่ผู้ใส่แว่นสามารถมองเห็นภาพจากโลกแห่งความเป็นจริงพร้อมกับข้อมูลเสริมต่าง ๆ ที่แสดงอยู่บนแว่นตาได้ การแสดงข้อมูลทางภาษาเป็นหนึ่งในความสามารถของแว่นตา AR ดังนั้น เราสามารถเปลี่ยนข้อความ “คำพูด” เป็น “ข้อความ” เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินบกพร่องได้ โดยเมื่อมีการพูดคำพูดที่เกี่ยวข้อง แว่นตา AR จะแปลงข้อความเหล่านั้นให้อยู่ในรูปแบบของข้อความที่ปรากฏบนแว่นตา อันทำให้ผู้ใส่แว่นสามารถอ่านและเข้าใจได้ โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้(ผู้มีปัญหาทางการได้ยินหรือการออกเสียง)สามารถเข้าใจบทสนทนาที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ในทันที
แว่นตาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้ผู้ใช้ที่หูหนวกมองเห็นการสนทนาที่เกิดขึ้น ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท XRAI Glass นี้ยังชี้ว่า แว่นตา AR ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินเท่านั้น แต่อุปกรณ์ดังกล่าวยังสามารถแปลได้หลากหลายภาษาในแบบเรียลไทม์ ได้ด้วย
ทั้งนี้ใจความหลักของเทคโนโลยีเหล่านี้มีมาเพื่อมาช่วยบุคคคที่มีปัญหาด้านการได้ยินโดยเฉพาะ สามารถทำให้พวกเค้าเหล่านั้นกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ ทำงาน ออกเดท หรือการมีปฎิสัมพันธกับคนในครอบครัว เพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงานก็ตาม
การได้ลองสวมแว่นตานี้เป็นครั้งแรก จอชถือเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก และทุกคำที่เขาพูดปรากฏเป็นตัวอักษรบรรยายภาพราวกับปาฏิหาริย์
ไม่เพียงแต่แสดงผลคำพูดบนแว่นตาเท่านั้น แต่ซอฟท์แวร์ยังแปลคำพูดที่ได้ยินผ่านแว่น XRAI Glass แล้วส่งบทสนทนาที่เป็นตัวอักษรผ่านไปยังแอพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย ซึ่งจอชได้ใช้งานลักษณะนี้เมื่ออยู่ในที่ประชุม
นอกจากนั้นกรณีของผู้มีปัญหาการได้ยินแล้ว อุปกรณ์นี้ยังใช้งานได้ดีในสถานการณ์ที่การได้ยินหรือฟังเป็นเรื่องยาก เช่น ในร้านอาหารที่มีเสียงอื้ออึง ขณะที่ แว่นตานี้อาจนำไปใช้เพื่อประโยชน์ด้านความบันเทิงได้ด้วย อย่างเช่น ในโรงภาพยนตร์ หรือการชมโทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งการชมคลิปผ่าน YouTube เพราะแว่นนี้สามารถช่วยผลิตคำบรรยายให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
ที่มา VOA, CNN, Youtube