ที่รับมือการเปลี่ยนแปลงหลัง Life Learning ต่อการเปลี่ยนแปลง disruption

แรงงานซึ่งเป็นที่ต้องการในโลกอนาคตจำเป็นต้องเป็น “แรงงานทักษะสูง”

1.Experiential Learning มหาวิทยาลัยในอนาคตจะมีลักษณะเรียนไป ทำงานไป เป็นผู้ประกอบการไปเปลี่ยนการเรียนรู้แบบทฤษฎีในห้องเรียน มาเป็นการเรียนรู้ฝึกฝนจากประสบการณ์ ผสมผสานการทำงานจริง แก้ปัญหาจริง เพราะความรู้เสาะหาได้ง่ายมากขึ้น

2.Promote Digital Literacy คนรุ่นใหม่สิงคโปร์ต้องสามารถอยู่ในโลกยุคการค้าแห่งดิจิทัลได้ มีทักษะ การคิดเชิงคำนวณเพื่อวิเคราะห์-แก้ไขปัญหา (Computational Thinking) และมีทักษะด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science)

3.Diversify Higher Education Pathways เพิ่มความหลากหลายของอุดมศึกษา เยาวชนสามารถเลือกเส้นทางตามความสนใจและความชอบของตน ให้รู้ว่าถนัดอะไร มีสายอาชีพให้เลือกหลากหลาย แนะนำเส้นทางต่างๆ ตั้งแต่วัยเด็ก

4.Encourage Lifelong Learning ยุคต่อไปคนเราต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต และมหาวิทยาลัยต้องคอยติดตาม คอยตอบสนองว่าคนที่จบไปแล้วอยากกลับมาเรียนอะไร

5.Broadening The Role of Universities การปรับตัวของมหาวิทยาลัย จะเพียงแค่สอน-วิจัย ไม่ได้แล้ว ต้องเพิ่มเติมบทบาทตัวเองทางสังคมและเป็นฮับของการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้มากขึ้น

นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ยังได้ขยายโอกาสด้าน reskill และยกระดับทักษะ upskill ไปยังอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดหลักสูตรย่อยมากขึ้น หลักสูตรเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินล่วงหน้าแล้ว 70% และมีหลายหลักสูตรที่ได้ปรับให้เป็น Professional Conversion Programmes (PCPs) ซึ่งมีเป้าหมายผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพในช่วงกลางของอาชีพ เพื่อเพิ่มทักษะด้านการสนทนา และขยับขึ้นไปสู่อาชีพใหม่หรือไปอยู่ในภาคธุรกิจใหม่ ที่มีโอกาสมีแนวโน้มที่จะก้าวหน้า

Source : salika,Ftpi

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น