การยอมรับจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานนอกจากความรู้ เพื่อนำไปสู่การทำงานให้ประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับ ความสามารถ และ การมี Soft Skill ที่สำคัญอย่าง ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารเวลา หรือการทำงานร่วมกับผู้อื่นแล้ว อีกหนึ่งทักษะที่คุณต้องให้ความสำคัญและทำความรู้จักคือ ทักษะของการเรียนรู้ตลอดชีวิต “Lifelong Learning” ท่ามกลางความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ในทุก ๆ วัน และสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงปฏิเสธแนวคิดหรือทักษะนี้ไปไม่ได้เลย และถ้าอยากเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือเป็นคนที่มีวิธีคิดแบบ “Lifelong Learning” ต้องทำอย่างไร ไม่ว่าจะเรียนด้วยตนเองผ่านการค้นหา Search Engine ต่างๆ การเรียนจากแหล่งวิดีโอ เช่น Youtube จากกลุ่มคนที่ตนเองชื่นชอบ นิยม หรือน่าเชื่อถือในเบื้องต้น โลกหมุนแล้วเปลี่ยนไปแล้ว

ขั้นแรก สิ่งที่เราต้องทำคือการปลดล็อคความคิดของตัวเอง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังคิดว่า สิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั้นดีแล้ว หรือความรู้ที่ตัวเองมีนั้นเพียงพอต่อการทำงาน คุณก็ไม่สามารถก้าวมาเป็นคนที่มีความคิดแบบ “Growth Mindset” ได้ เพราะความคิดแบบ “Growth Mindset” จำเป็นต้องหลุดออกจากพื้นที่ทางความคิดเดิม ๆ เปิดรับความคิดใหม่ ๆ มีความยืดหยุ่น เชื่อในศักยภาพของคนและองค์ความรู้ต่าง ๆ รวมถึงมีวิสัยทัศน์ในการสร้างการพัฒนาทั้งต่อตัวเองและองค์กร การมีแนวคิดแบบ “Growth Mindset” จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิตหรือเป็นคนที่มี “Lifelong Learning”

การเรียนรู้มีหลายรูปแบบ โดยในแต่ละรูปแบบก็จะมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่สำหรับการเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต ก็ต้องเลือกรูปแบบการเรียนรู้ในรูปแบบของตัวเอง (Self-directed learning) เพราะการกำหนดเป้าหมายและวิธีการด้วยตัวเองจะตอบโจทย์ชีวิตของคุณมากที่สุด โดยในการสร้างการเรียนรู้ในรูปแบบตัวเอง คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์และพิจารณาตัวเองว่ามีเป้าหมายในการเรียนเพื่ออะไร ใช้ทรัพยากรอะไรบ้างในการเรียนรู้ เช่น ค่าใช้จ่าย อุปกรณ์ต่าง ๆ เราก็ต้องคำนวณ รวมถึงเลือกรูปแบบในการเรียน เช่น เรียนผ่านเวิร์กชอป, คอร์สออนไลน์ หรือหนังสือ องค์ประกอบนี้ก็ต้องวางแผนให้ดี และที่สำคัญที่สุดคือ การเรียนนั้นจะต้องประเมินผลได้ เพราะการประเมินผลจะทำให้รู้ว่า ตัวเรามีศักยภาพมากน้อยแค่ไหนตามเงื่อนไขที่ได้ตั้งไว้

การเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ หรือ “Active Learning” เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะเป็นการเชื่อมโยงความรู้ที่ได้เคยศึกษามาในอดีตและที่เพิ่งได้เรียน มาประยุกต์ใช้จริงและเห็นถึงองค์ประกอบอื่นในความรู้นั้น ๆ เพื่อนำไปต่อยอดในการทำงานต่อไปได้ แต่สำหรับความรู้ในศาสตร์ที่ลงมือทำได้ยาก อย่าง ประวัติศาสตร์ ปรัชญา เราก็สามารถสร้างการเรียนรู้แบบ Active Leaning กับองค์ความรู้นั้นได้โดยการสร้างการปฏิสัมพันธ์กับความรู้นั้น ๆ เช่น การจดโน้ตเพื่อบันทึก หรือเขียนบทความ วิธีการนี้จึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายในการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต “Lifelong Learning” จึงเป็นวิธีคิดที่ไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงคุณมีเป้าหมายและตั้งมั่นอยากจะพัฒนาตนเองและองค์กรที่คุณอยู่ คุณจะพบว่า “ตัวคุณเองมีศักยภาพในการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ”

เนื้อาจาก กรุงศรี plearn plearn

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น