AI รุ่นใหม่ ถูกวางตัวให้มาเป็นผู้ช่วยในการจัดทำแผนที่และติดตามการเคลื่อนตัวของภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาด้วยการใช้ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม
ซึ่งจะทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายได้ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ตามรายงานข่าวจาก นักวิทยาศาสตร์จาก Arctic University of Norway คือผู้ที่ทำการพัฒนาอัลกอริทึมให้กับระบบ AI เพื่อจัดทำแผนที่พื้นผิวและโครงร่างของภูเขาน้ำแข็ง
โดยใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมที่ได้รับมาจากองค์การอวกาศยุโรป (European Space Agency – ESA)โดยความก้าวหน้านี้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถติดตามดูว่า
ภูเขาน้ำแข็งนั้นมีการหดตัวหรือแตกออกจากกันได้อย่างไร ในขณะที่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอยู่แทนที่จะเป็นการประเมินย้อนหลัง
ความรวดเร็วของระบบ AI นี้ ว่าสามารถประมวลผลได้ไวกว่ามนุษย์ถึง 10,000เท่า
โดยปัญญาประดิษฐ์นี้สามารถร่างแผนที่ขอบเขตของภูเขาน้ำแข็ง และโครงร่างภูเขาน้ำแข็งด้วยระยะเวลาเพียงหนึ่งในร้อยของวินาที ขณะที่มนุษย์นั้นต้องใช้เวลานานหลายนาที
เครื่องมือใหม่นี้ยังนำเสนอข้อมูลที่มีรายละเอียดเพิ่มขึ้น และช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถวิเคราะห์และเข้าใจสถานการณ์ได้ดีกว่าการใช้ข้อมูลจากบริการแผนที่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ซึ่งมักประสบปัญหาการแยกภูเขาน้ำแข็งออกจากองค์ประกอบอื่น ๆ ภายในภาพ
ทั้งนี้ การประมวลผลที่ว่องไวจาก AI ช่วยให้เหล่านักวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบการไหลเข้าของน้ำจืด การเพิ่มหรือลดปริมาณน้ำในมหาสมุทร
ที่มีผลทำให้ภูเขาน้ำแข็งหดตัวหรือขยายเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล
งที่เป็นปัญหาคอขวดตลอดเวลาที่ผ่านมาคือ การที่นักวิทยาศาสตร์ต้องสรุปรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของโครงร่างภูเขาน้ำแข็งด้วยมือ
ซึ่งทำให้การทำงานนั้นล่าช้า แต่ระบบใหม่นี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถรวบรวมข้อมูลทุกอย่างมาประมวลร่วมกัน และคำนวณการไหลเข้ามาของน้ำจืดทั้งหมดจากภูเขาน้ำแข็งได้โดยอัตโนมัติด้วย
Source : apnews , ESA