เริ่มต้นจากประเทศ สหรัฐอเมริกา University of Pennsylvania จะรับชำระค่าเทอมเป็นบิตคอยน์ (BTC) ในต้นปี 2022
Wharton School เป็นสถาบันแห่งแรกใน Ivy League และ Business School แห่งแรกของสหรัฐฯ ที่รับชำระค่าเล่าเรียนเป็นคริปโตเคอร์เรนซี
Wharton School แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียเริ่มรับชำระค่าเล่าเรียนเป็นบิตคอยน์ได้แล้วสำหรับหลักสูตรเกี่ยวกับบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล
Wharton School แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในกลุ่ม Ivy League อันทรงเกียรติ ได้ยืนยันแผนการที่จะเริ่มรับค่าเล่าเรียนในสกุลเงินดิจิทัล รวมถึง BTC สำหรับหลักสูตรออนไลน์เกี่ยวกับบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มในเดือนมกราคมปี 2022 นอกจากนี้ Wharton เปิดเผยว่าการชำระเงินคริปโตเหล่านี้จะได้รับการชำระผ่าน Coinbase Global Inc.
นอกเหนือจากการชำระค่าเล่าเรียนด้วยบิตคอยน์แล้ว นักศึกษายังสามารถชำระเป็นสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เช่น Ethereum และ USDC ได้อีกด้วย
Wharton ยืนยันคุณภาพของโปรแกรมคริปโตเคอรส์เรนซีและบล็อกเชน โดยแต่งตั้ง Kevin Werbach ผู้มีประสบการณ์การสอน 3 ปีในสาขาการกระจายอำนาจเป็นผู้สอนหลักของหลักสูตรนี้ นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะขยายความรู้ให้มากกว่าหลักการพื้นฐาน และรวมหัวข้อที่ใช้งานได้จริงไว้ในโครงสร้างหลักสูตร รวมถึงการให้คุณค่ากับสินทรัพย์ดิจิทัล กฎระเบียบ นโยบาย ตลอดจนการวิเคราะห์กรณีศึกษาในอดีตอีกด้วย
Guido Molinari หุ้นส่วนของ Prysm Group ซึ่งทำงานร่วมกับ Wharton เพื่อพัฒนาโปรแกรมนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า “หลักสูตรดังกล่าวเป็นโปรแกรมเกี่ยวกับบล็อคเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล” และเขาเผยอีกว่า “Coinbase ซึ่งมีผู้ใช้งานที่ยืนยันตัวตนกว่า 68 ล้านคน ผู้ใช้เหล่านี้จะได้รับประโยชน์จากโปรแกรมนี้ด้วย
มาต่อด้วยประเทศ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 28 มีนาคม 2022: Citizens School – สถาบันการศึกษาที่มีวิสัยทัศน์ที่คิดค้น ออกแบบ และพัฒนาในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประกาศว่าจะยอมรับสกุลเงินดิจิทัลเป็นวิธีการชำระเงิน ทำให้เป็นแห่งแรกในตะวันออกกลาง ให้ผู้ปกครองชำระค่าเล่าเรียนโดยใช้สกุลเงินดิจิทัล
• เด็กๆ จะได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อคเชน เตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต สอดคล้องกับมาตรการต่อเนื่องของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการทำให้สินทรัพย์เสมือนจริงเป็นทางการ
กำหนดจะเปิดประตูในเดือนกันยายน 2022 Citizens School จะยอมรับการชำระเงินจากสอง cryptocurrencies หลักสองอย่าง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) เพื่อให้ผู้ปกครองมีตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่น นอกเหนือจากรูปแบบการชำระเงินแบบดั้งเดิมและตัวเลือกการชำระเงินรายเดือนแบบปลอดดอกเบี้ยที่ Citizens School จะเสนอให้
การชำระเงินโดยใช้ cryptocurrencies ได้รับการยอมรับผ่านแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลที่ประมวลผลการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลและแปลงเป็น Dirhams (AED) โดยอัตโนมัติ (Dirhamเป็นสกุลเงินที่ใช้ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
การย้ายไปสู่ตัวเลือกการชำระเงินแบบ cryptocurrency เป็นไปตามการนำกฎหมายฉบับแรกที่ควบคุมสินทรัพย์เสมือนของรัฐบาลดูไบไปใช้ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีกรอบทางกฎหมายที่ปลอดภัยและขั้นสูงสำหรับนักลงทุน
เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศในการเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ Citizens School มุ่งมั่นที่จะช่วยให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นผู้นำในเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก
นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะทำให้เกิดการเติบโตที่สอดคล้องกับ UAE Centennial 2071 โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการให้การศึกษาที่ยอดเยี่ยมสำหรับเศรษฐกิจความรู้ที่หลากหลาย โรงเรียนพยายามที่จะเป็นศูนย์บ่มเพาะความคิดของผู้ประกอบการและนวัตกรรมที่นำโดยเด็ก
สุดท้ายประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางวิทยาลัยเทคโนโลยีขอนแก่นได้มีการประกาศทางโพสต์เฟสบุ๊คว่า “วิทยาลัยได้เปิดรับชำระค่าธรรมเนียมการเรียนผ่านระบบ Dogecoin Network แล้ว”
ซึ่งโพสต์ดังกล่าวนั้นได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและมียอดแชร์สูงถึง 500 กว่าแชร์ การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ได้ส่งผลทำให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีขอนแก่นกลายเป็นสถาบันศึกษาแห่งแรกของไทยที่ประกาศยอมรับเหรียญคริปโตเป็นหนึ่งในวิธีการชำระเงินให้กับเหล่านักศึกษา อย่างไรก็ตามสำหรับในต่างประเทศนั้น การเปิดรับชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ โดยเมื่อ 4 ปีก่อนมีรายงานว่า โรงเรียนอนุบาลของสหรัฐอเมริกา 2 แห่งได้ทำการเปิดให้ชำระค่าเทอม ด้วยสกุลเงินดิจิทัลแล้ว เนื่องจากมีผู้ปกครองส่วนหนึ่งส่งคำร้องมาทางโรงเรียนว่าต้องการชำระค่าเทอมด้วยวิธีนี้ แน่นอนว่าการประกาศของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีขอนแก่นในครั้งนี้ถือว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่อาจทำให้โรงเรียน มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ หันมาเปิดรับชำระเงิน ด้วยสกุลเงินดิจิทัลกันมากขึ้น และมันจะเป็นเรื่องที่ส่งผลดีต่อวงการคริปโตในบ้านเรา
Cr: th.investing.com ,zawya.com ,cryptosiam.com