ก่อนที่ป่าจะสูญเสียไปให้กลับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ สภาพภูมิอากาศ การทำนาและการเกิดไฟไหม้
นักวิจัยจาก Harvard University ใช้โดรนเพื่อศึกษาและทำความเข้าใจป่าฝนอเมซอนให้ดียิ่งขึ้น เมื่ออาศัยเซนเซอร์บนตัวโดรน นักวิจัยหวังว่าจะสามารถระบุฟิงเกอร์ปรินท์ที่เป็นเอกลักษณ์ของระบบนิเวศน์ป่าฝนที่ต่างกันออกไปได้ เพื่อช่วยวัดความอุดมสมบูรณ์ของป่าและเข้าใจถึงการตอบสนองต่อภาวะสภาพอากาศแปรปรวน การตัดไม้ทำลายป่า และไฟป่า
ต้นไม้ทุกต้นปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (volatile organic compound หรือ VOCs) ที่แตกต่างกันออกไป หรือฟิงเกอร์ปรินท์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น ภาวะภัยแล้งหรือน้ำท่วม จากการสังเกตสัญญาณเหล่านี้นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาวิธีที่ระบบนิเวศน์ป่าปรับตัวต่อสิ่งกระตุ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ข้อมูลที่ได้จากหอคอยที่สร้างในระบบนิเวศน์ประเภทเดียวนั้นมีจำกัดและเอนเอียง
ตั้งแต่ปี 2560 นักวิจัยจาก Harvard, Amazonas State University (UEA) และ the Amazonas State Research Support Foundation (FAPEAM) ได้ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาระบบที่ใช้โดรนในการกำหนดแผนที่ VOCs ที่ปล่อยออกมาในระบบนิเวศน์ต่างๆ ในป่าอเมซอนกลาง
งานวิจัยของพวกเขาที่ตีพิมพ์ในรายงานของ National Academy of Scienceพิสูจน์ว่าระบบนิเวศที่แตกต่างกันมีลายเซ็น VOC ที่แตกต่างกัน จากนั้นทีมวางแผนที่จะสุ่มตัวอย่างระบบนิเวศในหุบเขาที่มีน้ำมากไปตามแม่น้ำ พวกเขาจะใช้เรือเป็นแพลตฟอร์มเปิดตัวและหวังว่าจะทดสอบฝูงบินสามคน
ศาสตราจารย์ Harvard กล่าว “แต่เทคโนโลยีที่ช่วยเหลือจะช่วยให้เราเข้าใจและคำนวณปริมาณการปล่อย VOC
ในระบบนิเวศใกล้เคียงเพื่อให้เป็นตัวแทนของพวกเขาในแบบจำลองสภาพอากาศและคุณภาพอากาศ”
Source : engadget, Jianhuai Ye / Harvard SEAS