ระหว่างครึ่งหลังของปี 2025 จนถึงปี 2026 การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์เชิงกำเนิด (Generative AI: GenAI) ในระบบการศึกษาในภูมิภาคเอเชียได้ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในเชิงปริมาณการใช้งานและความลุ่มลึกทางทัศนคติของผู้เรียนต่อเทคโนโลยีดังกล่าว
- ต้นปี 2025 ข้อมูลเชิงสำรวจจากหลากหลายประเทศ เช่น ไทย ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ แสดงให้เห็นว่านักศึกษากว่าร้อยละ 92 ได้ใช้งานเครื่องมือ AI ในบางรูปแบบ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 66 ในปี 2024 การใช้ GenAI เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการประเมินผลเพิ่มจากร้อยละ 53 ในปี 2024 เป็นร้อยละ 88 ในปี 2025 ลักษณะการใช้ที่พบมากที่สุด ได้แก่ การอธิบายแนวคิดเชิงวิชาการ การสรุปบทความ และการสร้างกรอบแนวคิดวิจัย โดยมีนักศึกษาร้อยละ 18 ยอมรับว่าบรรจุข้อความที่ผลิตโดย AI ลงในงานของตนโดยตรง แนวโน้มดังกล่าวปรากฏเด่นชัดในสถาบันการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งในประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลก้าวหน้า อย่างไรก็ดี ความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงเทคโนโลยียังคงสังเกตได้ในบางภูมิภาคและกลุ่มเศรษฐกิจ
- นักศึกษาในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีท่าทีชื่นชมความสามารถของ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและประหยัดเวลา แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อการทุจริตทางวิชาการและความถูกต้องของข้อมูล การสนับสนุนเชิงสถาบันแม้จะเพิ่มขึ้น—เช่น การบรรจุหลักสูตรความรอบรู้ด้าน AI (AI literacy) ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ—แต่ยังมีเพียงร้อยละ 36 ของนักศึกษาในปี 2025 ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างมีโครงสร้าง
- ความคิดเห็นต่อการประเมินที่มี AI เป็นองค์ประกอบในกระบวนการ แบ่งออกเป็นสามกลุ่มอย่างสมดุล บางกลุ่มมีแรงจูงใจเพิ่มขึ้น บางกลุ่มลดลง และบางกลุ่มไม่มีการเปลี่ยนแปลง
- ในปี 2026 การใช้ GenAI ยังคงมีลักษณะการแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง โดยร้อยละ 79 ของคนรุ่น Gen Z ในเอเชียรายงานว่ามีการใช้งาน และร้อยละ 47 ใช้งานในลักษณะประจำสัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงใกล้กำหนดส่งงาน ความตระหนักรู้ต่อข้อจำกัดของ AI เช่น ปรากฏการณ์การสร้างข้อมูลเท็จ (hallucination) และอคติของระบบ มีการพัฒนาอย่างชัดเจน ทำให้ผู้เรียนมอง AI ในฐานะ “ผู้ช่วยสนับสนุน” มากกว่า “ผู้เชี่ยวชาญสูงสุด”
- ทิศทางการเปลี่ยนแปลงบ่งชี้ว่า AI กำลังบูรณาการอย่างลึกซึ้งกับกระบวนการเรียนการสอนในภูมิภาคเอเชีย สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งได้ริเริ่มออกแบบหลักสูตรและระบบประเมินใหม่ เพื่อให้สอดรับกับบริบทเทคโนโลยีสมัยใหม่และคงไว้ซึ่งหลักความซื่อสัตย์ทางวิชาการ
กล่าวโดยสรุป ช่วงเปลี่ยนผ่านจากปี 2025 สู่ 2026 ในเอเชียเป็นลักษณะการพัฒนาอย่างมีขั้นตอน มากกว่าการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน โดยมุ่งสู่การใช้งาน AI เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติทางวิชาการอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างทักษะและจริยธรรมดิจิทัลในหมู่นักศึกษา
Credits : NYU