Site Loader

AI :  สร้างสรรค์ในวงการศึกษา: ทักษะของนักศึกษาและบทบาทใหม่ของอาจารย์

งานวิจัยเรื่อง “Generative AI in Education: Student Skills and Lecturer Roles” ได้ชี้ให้เห็นถึงทักษะสำคัญที่นักศึกษาควรพัฒนาเพื่อใช้เทคโนโลยี AI สร้างสรรค์ (Generative AI) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นถึงความสำคัญของ ความรู้เท่าทัน AI (AI literacy), การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking) และ การจัดการผลลัพธ์จาก AI (Managing AI Output) ซึ่งเป็นทักษะจำเป็นในการเรียนรู้ยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันทางการศึกษา
นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่ามีนักศึกษาจำนวนมากที่ยังขาดทักษะขั้นสูง เช่น การออกแบบคำสั่งให้ AI (Prompt Engineering) และ การตระหนักรู้เรื่องอคติใน AI (AI Bias Awareness) ซึ่งเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสสำคัญสำหรับสถาบันการศึกษา

🧠 ความสำคัญของความรู้เท่าทัน AI (AI Literacy)

AI Literacy เป็นพื้นฐานสำคัญของการใช้เครื่องมือ AI อย่างเข้าใจ หมายถึงการรู้ว่า AI ทำงานอย่างไร มีรูปแบบข้อมูลและผลลัพธ์แบบไหน รวมถึงความเสี่ยงและประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น
นักศึกษาที่มีความรู้เท่าทัน AI สามารถแปลความหมายของผลลัพธ์จาก AI ได้อย่างมีวิจารณญาณ และตัดสินใจได้ว่าควรใช้ AI ในสถานการณ์ใดอย่างเหมาะสม

นอกจากด้านเทคนิคแล้ว AI Literacy ยังรวมถึงการเข้าใจในแง่มุมจริยธรรม ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และผลกระทบทางสังคมจากการใช้ AI อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลักสูตรการศึกษาหลายแห่งยังไม่ทันต่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ทำให้นักศึกษาบางส่วนใช้ AI โดยไม่เข้าใจข้อจำกัด เช่น การสร้างข้อมูลผิด (hallucination) หรือผลลัพธ์ที่มีอคติ


🔍 การพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)

เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือทั่วไปในการเรียนรู้ นักศึกษาจำเป็นต้องมีทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ เพื่อประเมินความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และความเป็นธรรมของข้อมูลที่ได้จาก AI
ผู้ที่มีทักษะนี้จะสามารถตั้งคำถามต่อผลลัพธ์ของ AI ตรวจจับข้อมูลผิดหรือมีอคติ และเลือกใช้อย่างระมัดระวัง

นอกจากนี้ การคิดเชิงวิพากษ์ยังช่วยให้นักศึกษาสามารถใช้ AI เป็น “ผู้ช่วยร่วมคิด” ไม่ใช่แค่แหล่งข้อมูล พวกเขาจะรู้วิธีปรับและตรวจแก้ผลลัพธ์จาก AI ให้เหมาะสมกับงาน และรับผิดชอบต่อคุณภาพของผลงานตนเอง


⚙️ การจัดการผลลัพธ์จาก AI (Managing AI Output)

“การจัดการผลลัพธ์จาก AI” หมายถึง ความสามารถในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล นำไปเชื่อมโยงกับเนื้อหาวิชาที่เรียน และปรับแต่งให้เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการ
งานวิจัยพบว่านักศึกษาหลายคนมัก เชื่อ AI มากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหา เช่น การลอกผลงาน (plagiarism) หรือการใช้ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ

นักศึกษาจึงควรเรียนรู้ที่จะเป็น “ผู้ใช้เชิงรุก” (active user) ที่สามารถกลั่นกรองและตัดสินใจด้วยตนเอง ไม่ใช่พึ่งพา AI อย่างเดียว


💬 ช่องว่างด้านทักษะ Prompt Engineering

หนึ่งในช่องว่างสำคัญที่พบคือ นักศึกษาขาดทักษะในการ ออกแบบคำสั่ง (Prompt Engineering) เพื่อให้ AI สร้างผลลัพธ์ที่ตรงตามต้องการ
Prompt ที่ดีต้องอาศัยความเข้าใจว่า AI แปลความหมายของภาษาอย่างไร ต้องใช้ความเฉพาะเจาะจง และมีการปรับแก้ซ้ำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เมื่อขาดทักษะนี้ ผลลัพธ์จาก AI มักไม่ชัดเจนหรือไม่ตรงประเด็น การฝึกให้เข้าใจหลักการของ prompt จะช่วยให้นักศึกษาใช้ AI ได้อย่างสร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพ และเพิ่มทักษะการแก้ปัญหาเชิงนวัตกรรม


⚖️ การตระหนักรู้เรื่องอคติใน AI (AI Bias Awareness)

AI ไม่ได้เป็นกลางเสมอไป เพราะโมเดลถูกฝึกจากข้อมูลที่อาจมีอคติ งานวิจัยจึงเน้นว่า นักศึกษาควรเข้าใจและสามารถตรวจจับอคติในผลลัพธ์ของ AI ได้
การตระหนักรู้เรื่องอคติไม่ได้หมายถึงการรู้ว่า “AI อาจมีอคติ” เท่านั้น แต่รวมถึงการเข้าใจระบบการสร้างข้อมูล ปัญหาความไม่เท่าเทียม และจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี

ทักษะนี้จะช่วยให้นักศึกษามีวิจารณญาณและใช้ AI อย่างรับผิดชอบ เป็นธรรม และให้คุณค่ากับความหลากหลายทางสังคม


👩‍🏫 บทบาทใหม่ของอาจารย์ในยุค AI

นอกจากนักศึกษาแล้ว งานวิจัยยังเน้นว่า บทบาทของอาจารย์ ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน จากผู้ถ่ายทอดความรู้ มาเป็น ผู้นำทางและผู้ฝึกทักษะการใช้ AI อย่างมีวิจารณญาณ
อาจารย์ต้องช่วยให้นักศึกษาวิเคราะห์และตีความผลลัพธ์จาก AI เรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ เช่น prompt engineering และสอดแทรกประเด็นจริยธรรมในการเรียนการสอน

สถาบันการศึกษาควรสนับสนุนการพัฒนาอาจารย์ผ่านการอบรมและทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อให้สามารถออกแบบการเรียนรู้ที่บูรณาการ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


🏫 ข้อเสนอแนะสำหรับสถาบันการศึกษา

งานวิจัยเสนอแนวทางเพื่อเตรียมนักศึกษาและบุคลากรให้พร้อมสำหรับยุค AI ดังนี้

  • บูรณาการในหลักสูตร: ใส่เนื้อหาเกี่ยวกับ AI literacy, การคิดเชิงวิพากษ์, prompt engineering และ bias awareness ไว้ในรายวิชาหลัก
  • พัฒนาอาจารย์: จัดอบรมให้มีความรู้และความมั่นใจในการสอนเกี่ยวกับ AI
  • สร้างกรอบจริยธรรม: จัดทำนโยบายการใช้ AI อย่างรับผิดชอบในชั้นเรียน
  • สนับสนุนนักศึกษา: จัดเวิร์กช็อปและแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ AI
  • ปรับรูปแบบการประเมิน: ให้ความสำคัญกับการคิดวิเคราะห์และการใช้ AI อย่างสร้างสรรค์มากกว่าการท่องจำ

🔚 บทสรุป

งานวิจัยเรื่อง “Generative AI in Education: Student Skills and Lecturer Roles” ชี้ให้เห็นว่าในยุคที่ AI เข้ามาเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ นักศึกษาจำเป็นต้องมีทักษะที่ลึกซึ้งขึ้น ทั้งด้านเทคนิคและจริยธรรม
โดยเฉพาะ AI literacy, critical thinking, และการจัดการผลลัพธ์จาก AI พร้อมกับการพัฒนาทักษะใหม่อย่าง prompt engineering และ การตระหนักรู้เรื่องอคติของ AI

ในขณะเดียวกัน อาจารย์ต้องปรับบทบาทเป็นผู้นำทางทางปัญญาและผู้ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกับ AI เพื่อให้การศึกษาในอนาคตเป็นทั้ง “ฉลาดด้วย AI” และ “รับผิดชอบต่อ AI

Post Author: nattariya

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *