Site Loader

ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างเท่าเทียมในโรงเรียน: แนวทางสำหรับยุคการศึกษาใหม่ปี 2026

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่เปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ระบบช่วยสอนอัตโนมัติ การวิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ ไปจนถึงการประเมินผลแบบทันทีทันใด แม้ว่า AI จะเปิดโอกาสให้โรงเรียนพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจทำให้ “ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา” กว้างขึ้นได้ หากขาดการกำกับดูแลที่เป็นธรรมและครอบคลุม โดยเฉพาะในบริบทของประเทศที่มีความแตกต่างด้านเศรษฐกิจ สังคม และความพร้อมด้านเทคโนโลยี

องค์กรระดับโลกอย่าง UNESCO, OECD และ World Economic Forum ต่างเน้นย้ำถึงความรับผิดชอบ การกำกับดูแล และความโปร่งใสเป็นหัวใจสำคัญของการนำ AI มาใช้ในโรงเรียน โดยเฉพาะในปี 2026 เป็นต้นไป โรงเรียนจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องนักเรียนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้เรียนที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ หรือผู้เรียนที่อยู่ในพื้นที่ด้อยโอกาส เพื่อให้ AI กลายเป็น “โอกาส” ไม่ใช่ “อุปสรรค” ของระบบการศึกษาไทย

บทความนี้สรุปข้อเสนอเชิงนโยบายสำคัญ 6 ด้าน เพื่อให้โรงเรียนไทยสามารถใช้ AI อย่างปลอดภัย เป็นธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียนทุกคน


1. การกำกับดูแลและการจัดตั้งคณะทำงานด้าน AI ในโรงเรียน

หนึ่งในหลักการสำคัญของการใช้ AI ในสถานศึกษา คือ โรงเรียนต้องมีระบบกำกับดูแลที่ชัดเจนและมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน การตัดสินใจเกี่ยวกับ AI ไม่ควรถูกกำหนดโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงลำพัง เพราะผลกระทบของ AI นั้นครอบคลุมทั้งครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน

โรงเรียนควรจัดตั้ง “คณะทำงานด้าน AI” ที่ประกอบด้วย:

  • ครูผู้สอนจากหลากหลายสาขา
  • นักเรียนในระดับชั้นต่าง ๆ
  • ผู้ปกครอง
  • ผู้บริหารสถานศึกษา
  • ผู้กำหนดนโยบายระดับเขตพื้นที่
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรม เทคโนโลยี หรือกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล

คณะทำงานนี้จะทำหน้าที่กำกับทิศทางการใช้ AI ในโรงเรียน วางนโยบาย ติดตามผล และทบทวนความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ AI ถูกใช้ในลักษณะที่ “เสริม” ไม่ใช่ “แทนที่” บทบาทสำคัญของครูและมนุษย์

แนวทางปฏิบัติที่สำคัญได้แก่:

  1. จัดทำนโยบายด้าน AI ของโรงเรียนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
    ควรกำหนดบทบาทของ AI อย่างชัดเจน เช่น
    • AI สามารถช่วยประเมินงานได้ แต่มนุษย์ต้องเป็นผู้อนุมัติขั้นสุดท้าย
    • ห้ามใช้ AI ในการตัดสินใจที่มีผลกระทบสูงต่อชีวิตนักเรียน หากไม่มีผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบ
  2. ทบทวนผลกระทบของ AI เป็นประจำทุกปี
    โดยประเมินตัวชี้วัดความเท่าเทียม เช่น
    • ช่องว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
    • การมีส่วนร่วมในห้องเรียน
    • ผลกระทบต่อกลุ่มนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ
  3. ความร่วมมือระดับเขตพื้นที่การศึกษา
    ควรมีมาตรฐานกลางในการทดสอบความลำเอียงของเครื่องมือ AI ก่อนนำมาใช้จริง เพื่อลดความเสี่ยงที่โรงเรียนจะใช้งานระบบที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบอย่างเหมาะสม

ระบบกำกับดูแลที่มั่นคงเช่นนี้จะช่วยให้การใช้ AI เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและไม่สร้างความเหลื่อมล้ำใหม่ในระบบการศึกษาไทย


2. การสร้างความรู้เท่าทัน AI และการพัฒนาวิชาชีพครู

ในยุคดิจิทัล ความรู้พื้นฐานด้านการใช้คอมพิวเตอร์อาจไม่เพียงพออีกต่อไป นักเรียนและครูต้องมี “ความรู้เท่าทัน AI” (AI Literacy) เพื่อสามารถใช้งานเครื่องมือเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีจริยธรรม

เนื้อหาที่ควรบรรจุในหลักสูตรของนักเรียน ได้แก่:

  • หลักการทำงานของ AI และวิธีคิดของอัลกอริทึม
  • ข้อจำกัดของ AI และความเสี่ยง เช่น ความลำเอียง ความผิดพลาด หรือข้อมูลเท็จ
  • วิธีตรวจจับสื่อปลอม (deepfake) และเนื้อหาที่ AI สร้างขึ้น
  • การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ AI ให้มา
  • ผลกระทบของ AI ต่อสังคม เศรษฐกิจ และค่านิยม

ส่วนครูควรได้รับการอบรมเกี่ยวกับ:

  1. วิธีใช้เครื่องมือ AI ในการออกแบบการเรียนรู้
    เช่น การสร้างใบงาน การออกแบบกิจกรรมเฉพาะบุคคล หรือการวิเคราะห์ปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียน
  2. จริยธรรมและกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลผู้เรียน
    เพื่อให้ครูสามารถเลือกเครื่องมือที่ปลอดภัยได้อย่างเหมาะสม
  3. การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Upskilling & Reskilling)
    รัฐควรจัดอบรมและมอบประกาศนียบัตรด้านทักษะ AI เพื่อยกระดับความสามารถของครูอย่างต่อเนื่อง

ข้อเสนอเพิ่มเติม:

  • ควรร่วมมือกับ UNESCO หรือองค์กรด้านการศึกษาเพื่อพัฒนากรอบทักษะ AI ที่เหมาะสมกับบริบทของไทย
  • โรงเรียนควรจัดให้มีชั่วโมงเรียนหรือกิจกรรมเสริมเกี่ยวกับ AI ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา

การสร้างความรู้พื้นฐานด้าน AI จะช่วยให้ผู้เรียนใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยและมีวิจารณญาณมากขึ้น


3. การลดอคติของระบบ AI และการทำให้การตัดสินใจเป็นธรรม

หลายคนอาจเข้าใจว่า AI เป็นกลางและไม่มีอคติ แต่ในความจริง AI ก็สามารถสร้างความไม่เป็นธรรมได้ หากข้อมูลที่ใช้ฝึกสอนเป็นข้อมูลที่ลำเอียง หรือหากอัลกอริทึมไม่ได้ผ่านการตรวจสอบอย่างรอบคอบ

เพื่อป้องกันปัญหานี้ โรงเรียนจำเป็นต้องมีมาตรการตรวจสอบความยุติธรรมของ AI อย่างเป็นระบบ

มาตรการสำคัญ ได้แก่:

  1. เลือกใช้เครื่องมือที่ผ่านการทดสอบความเป็นธรรมแล้ว
    เครื่องมือเหล่านี้ควรได้รับการยืนยันว่าถูกฝึกด้วยข้อมูลที่หลากหลาย ครอบคลุมเพศ เชื้อชาติ ภูมิหลังทางเศรษฐกิจ และสไตล์การเรียนที่แตกต่างกัน
  2. ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง (Continuous Monitoring)
    แม้ระบบจะดีเพียงใด ก็อาจเกิดปัญหาได้หากเจอสถานการณ์ใหม่ ๆ โรงเรียนจึงต้องมีระบบตรวจสอบผลลัพธ์ของ AI แบบเรียลไทม์ พร้อมให้ครูหรือผู้เชี่ยวชาญร่วมประเมินเสมอ
  3. ความโปร่งใสของอัลกอริทึม (Algorithm Transparency)
    โรงเรียนควรเลือกใช้ AI ที่สามารถอธิบายเหตุผลของการตัดสินใจได้ เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองเข้าใจว่าระบบประเมินอย่างไร
  4. ห้ามใช้ AI เชิงพาณิชย์ที่ไม่ได้ตรวจสอบความปลอดภัย
    เพราะบริษัทบางแห่งอาจให้ความสำคัญกับกำไรมากกว่าความโปร่งใสและความยุติธรรม

การตรวจสอบความเป็นธรรมของ AI ไม่เพียงช่วยให้นักเรียนได้รับการประเมินอย่างเท่าเทียมเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมความเชื่อมั่นของสังคมต่อการใช้ AI ในโรงเรียนอีกด้วย


4. ความเท่าเทียมด้านโครงสร้างพื้นฐานและการเข้าถึง

AI จะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ก็ต่อเมื่อทุกโรงเรียนสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ อินเทอร์เน็ต และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นได้อย่างเท่าเทียม หากโรงเรียนหนึ่งมีอุปกรณ์ครบครัน แต่โรงเรียนอื่นในพื้นที่ชนบทยังไม่มีอินเทอร์เน็ตที่เสถียร ความเหลื่อมล้ำก็อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

แนวทางสำคัญเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียม ได้แก่:

  1. สนับสนุนงบประมาณหรืออุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีให้โรงเรียนในพื้นที่ด้อยโอกาส
    เช่น แท็บเล็ต เครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เสริมสำหรับการเรียนรู้ด้วย AI
  2. ขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
    เพื่อให้นักเรียนทุกคนเข้าถึงแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ใช้ AI ได้โดยไม่มีข้อจำกัด
  3. สนับสนุนเครื่องมือ AI แบบโอเพ่นซอร์ส
    เพื่อให้ครูและนักเรียนสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง
  4. ออกแบบระบบ AI ที่รองรับความหลากหลาย
    เช่น ระบบอ่านออกเสียงสำหรับผู้พิการทางการมองเห็น ระบบแปลภาษาไทย–ชนกลุ่มน้อย หรือระบบเรียนรู้ที่ปรับตามระดับความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน
  5. ทดลองใช้ระบบใหม่ก่อนนำไปใช้ทั่วประเทศ
    เพื่อประเมินผลกระทบด้านความเท่าเทียมก่อนปรับใช้ในวงกว้าง

ความเท่าเทียมด้านการเข้าถึงคือรากฐานที่จะทำให้ AI ช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาได้อย่างแท้จริง


5. จริยธรรม ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของข้อมูลนักเรียน

การใช้ AI ในโรงเรียนย่อมเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียน เช่น ข้อมูลการเรียน พฤติกรรม หรือแม้แต่เสียงและใบหน้า หากไม่มีมาตรการปกป้องที่ดี อาจเกิดปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวหรือการใช้ข้อมูลผิดวัตถุประสงค์ได้

หลักการที่ต้องยึดถือ ได้แก่:

  1. เก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
    ไม่ควรเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้
  2. เข้ารหัสข้อมูลและจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงอย่างเข้มงวด
  3. ให้ความยินยอมอย่างชัดเจน (Informed Consent)
    ผู้ปกครองและนักเรียนต้องได้รับข้อมูลครบถ้วนก่อนอนุญาตให้ใช้ระบบ AI
  4. เปิดเผยวิธีทำงานของระบบ (Explainable AI)
    เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจว่าระบบตัดสินใจอย่างไร และประเมินความเป็นธรรมได้
  5. สอนนักเรียนเกี่ยวกับจริยธรรมของ AI และความรับผิดชอบทางดิจิทัล
    เช่น การใช้ข้อมูลอย่างมีจริยธรรม ความรับผิดชอบเมื่อนำ AI มาช่วยทำงาน หรือความเสี่ยงจากการพึ่งพา AI มากเกินไป

นโยบายด้านจริยธรรมที่เข้มแข็งจะช่วยปกป้องนักเรียนและเสริมความเชื่อมั่นของสังคมต่อการใช้ AI ในโรงเรียนไทย


6. สนับสนุนการวิจัย นวัตกรรม และการประเมินผลอย่างรอบด้าน

เพื่อให้ประเทศไทยก้าวทันกระแสเทคโนโลยี ควรมีการลงทุนในงานวิจัยด้าน AI เชิงการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานวิจัยที่ช่วยให้ผู้เรียนหลากหลายกลุ่มได้รับประโยชน์เท่าเทียมกัน

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม:

  • สนับสนุนงานวิจัยเกี่ยวกับสื่อการสอนแบบมัลติโหมด เช่น เสียง ภาพ 3 มิติ หรือ VR
  • พัฒนาระบบที่ช่วยลดภาระงานครู เช่น การตรวจงานอัตโนมัติแบบปลอดอคติ หรือการวิเคราะห์ข้อมูลการเรียนของนักเรียน
  • ประเมินผลการใช้งานจริงด้วยตัวชี้วัด เช่น ความพึงพอใจของนักเรียน ระดับผลสัมฤทธิ์ หรือดัชนีความเท่าเทียม

การลงทุนด้านนวัตกรรมจะช่วยให้ AI กลายเป็น “เครื่องมือสร้างโอกาส” สำหรับผู้เรียนทุกคน


บทสรุป

AI ไม่ใช่เพียงเทคโนโลยี แต่เป็น “ระบบนิเวศใหม่” ที่กำลังเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยอย่างลึกซึ้ง หากโรงเรียนมีระบบกำกับดูแลที่โปร่งใส พัฒนาครูและผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบความเป็นธรรมของระบบ และสร้างความเท่าเทียมด้านการเข้าถึง AI จะช่วยยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง

ข้อเสนอเชิงนโยบายทั้ง 6 ประการนี้ จะช่วยให้โรงเรียนไทยสามารถใช้ AI อย่างรับผิดชอบ ปลอดภัย และเท่าเทียม โดยไม่ทำให้ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้าม AI จะกลายเป็นโอกาสใหม่ที่ช่วยให้นักเรียนทุกคนเติบโตและประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลแห่งอนาคต

source : weforum.org


Post Author: nattariya

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *