เพื่อให้โรงเรียนตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่และรองรับความต้องการของผู้เรียนที่หลากหลาย โดยแนวทางนี้แบ่งโรงเรียนออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ได้แก่
- โรงเรียนในระบบ (Formal School) – Inside Out
เป็นโรงเรียนตามโครงสร้างดั้งเดิมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ
ใช้หลักสูตรมาตรฐานของรัฐเป็นแกนหลัก แต่ปรับปรุงให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
นำแนวคิด Inside Out มาใช้ คือผลักดันการเปลี่ยนแปลงจากภายใน เช่น ปรับวิธีสอน ใช้เทคโนโลยี ปรับหลักสูตรให้ทันสมัย
- โรงเรียนทางเลือก (Alternative School) – Hybrid Inside Out + Outside In
เป็นโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกเส้นทางการศึกษาได้ตามความสนใจ
ใช้รูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างจากโรงเรียนปกติ เช่น Homeschool, โรงเรียนแนว Montessori, หรือโรงเรียนที่เน้นทักษะเฉพาะด้าน
แนวคิด Inside Out + Outside In ทำให้เกิดความยืดหยุ่น โดยโรงเรียนสามารถดึงองค์ความรู้จากแหล่งภายนอกมาใช้ร่วมกับการจัดการเรียนการสอน
- โรงเรียนไร้กำแพง (Open & Digital Learning) – Outside In
เป็นการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง ไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลา เช่น การเรียนออนไลน์ แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล หรือโครงการเรียนรู้ในชุมชน
ใช้แนวคิด Outside In นำองค์ความรู้จากโลกภายนอกเข้าสู่ระบบการศึกษา เช่น MOOCs (Massive Open Online Courses), การเรียนรู้แบบ PBL (Project-Based Learning), หรือการฝึกงานจากภาคธุรกิจ
รองรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และเน้นทักษะที่ใช้ได้จริง
สรุป: จุดเปลี่ยนของโครงสร้างระบบการศึกษา
การออกแบบระบบ “1 โรงเรียน 3 รูปแบบ” เป็นการเปิดกว้างทางการศึกษาให้เหมาะกับยุคดิจิทัล โดยใช้ Inside Out ในการพัฒนาโรงเรียนจากภายใน และใช้ Outside In เพื่อนำความรู้และนวัตกรรมจากภายนอกมาส่งเสริมการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมีทางเลือกมากขึ้น และสามารถพัฒนาทักษะที่ตรงกับความต้องการของโลกอนาคต เลือกเส้นทางการเรียนรู้ที่เหมาะกับชีวิตของพวกเขาเอง
Source: EEF THAILAND